โรจา หัวหน้าทีมนักชำแหละ สังกัดทีมรอง หน่วย 5 กิลด์ [เขี้ยวประกายแสง]
"หลังนี้แหละค่ะ"
เมื่อผมมาถึงบ้านของตระกูลเนฮิวตามการนำทางของเด็กที่ซื้อมา
บ้านตรงหน้าเหลือเพียงซากไม้ รอบบริเวณบ้านมีอวัยวะกับคราบเลือดของมนุษย์กระจายอยู่เต็มไปหมด
กลุ่มที่มาด้วยกันบางคนขมวดคิ้ว บางคนตกใจ บางคนก็เบือนหน้าหนี
ต่างกับเด็กทั้งสองที่ซื้อมา เพราะยืนมองนิ่งราวกับนี่คือเรื่องปกติ
ถ้าเป็นศพมอนสเตอร์พวกนั้นคงชิน
และเหตุผลเดียวกัน คนในสลัมคงเห็นศพมนุษย์จนเฉยชา
สภาพศพเละจนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร กะคร่าวๆ น่าจะซัก 10 ราย
มีโอกาสเป็นไปได้ไหมนะ ว่ามีตระกูลเนฮิวที่เหลือรวมอยู่ในศพพวกนี้ด้วย
เทียร่ามีโอกาสเป็นไปได้เพราะความพิการ เอลด้าที่ร่างกายอ่อนแอก็คงแบกหนีไม่ไหว
"หัวหน้าครับ มีเด็กน่าสงสัยจ้องมองบ้านหลังนี้ตลอดเลยครับ"
ระหว่างวิเคราะห์ลูกทีมก็พูดพร้อมกับลากคอเสื้อเด็กวัยรุ่นชายคนนึงมา
"ทำไมถึงจ้องบ้านหลังนี้ แกเกี่ยวอะไรกับพวกเนฮิว"
จากการสังเกตเด็กคนนี้มีแววตาเกลียดชังและโกรธแค้น
"ถ้าไม่ตอบ ก็ไปนอนกองรวมกับพวกมัน"
"พวกมันฆ่าเพื่อนข้า!"
"ใคร"
"นังเลร่ากับคาลิก้า!"
"...หือ!? เมื่อกี้ แกพูดว่าไงนะ"
"ก็บอกว่านังเลร่ากับคาลิก้าไง!"
มีคนชื่อคาลิก้ามาที่บ้านของคาลิก้าเนี่ยนะ
"เล่ามาให้ละเอียดซะ ตั้งแต่ต้น"
----- หลังจากนั้น 10 นาที -----
สรุปคือมันเป็นเพื่อนอีกคนในกลุ่ม
เพียงแต่วันนี้ต้องตามไปช่วยพี่มันทำงานยกของ เลยมาสนุกกับการฆ่าเทียร่าด้วยไม่ได้
แต่ตอนมาถึง กลับเจอเลร่ากำลังช่วยพี่สาวคาลิก้า เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายเก่งมันเลยแอบซ่อนตัว
หลังจากฆ่ากลุ่มพวกมันทิ้งไป มันก็สร้างทหารให้เธอไปหาน้องสาวที่ชื่อเอลด้า
ลักษณะของคาลิก้าคนนั้นก็ไม่ตรงกับคาลิก้าที่ผมฆ่าไปก็จริง
แต่ทำไมมันถึงเรียกเทียร่าว่าพี่และเอลด้าว่าน้อง
ตระกูลนี้มันมีแค่ 3 คน
"รีบกลับไปที่สำนักงานดูแลนักผจญภัย สอบถามข้อมูลว่ามีใครใช้ชื่อคาลิก้าบ้าง จดมาให้หมด"
"ได้เลยค่ะ"
เกิดอะไรขึ้นในดันเจี้ยนหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นงั้นหน่วยปิดฉากก็ต้องรายงานเข้ามาสิ
มาจอก้า ลาโบ้ ทู้เก้ โดนสั่งเก็บเพราะเรื่องมีด
มีดเล่มนั้นใช้ฆ่าคาลิก้า
มีดหายไป
คาลิก้าอีกคน? มาที่บ้านตระกูลเนฮิว
เรียกสองคนที่เหลือว่าพี่กับน้อง
เรื่องนี้ชักจะไม่ชอบมาพากล เป็นไปได้ไหมว่าคาลิก้าผมทองคนนั้นเป็นคนคนเดียวกันและอาจมีเอี่ยวในเรื่องมีดของท่านไจเกีย
"เปลี่ยนเป้าหมายในการค้นหา เราจะหาเอลด้าให้เจอก่อนแล้วจับมันเป็นตัวประกัน"
"ได้เลยครับ/ค่ะ"
ถ้าเอลด้าสำคัญกับมันมาก มันก็จะยอมคายทุกอย่างออกมาเอง
*****
อัสทิล สมาชิกกลุ่มวัยรุ่นอันธพาล คนเดียวที่รอดชีวิตเพราะติดธุระ
นังเลร่า นังคาลิก้า
พวกแกจะต้องชดใช้ที่มาฆ่าเพื่อนและทำลายกลุ่มของข้า
ทั้งที่พวกเรามีความฝันว่าจะได้เป็นนักผจญภัยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
ตั้งกิลด์ชื่อเสียงกระฉ่อน มีแต่คนก้มหัวให้ความเคารพ
แต่เพราะพวกแกสองตัว ความฝันร่วมกันของพวกเราจึงจบลง
ทำไมวะ แค่พี่สาวขยะตัวเดียว ถึงกับต้องฆ่าเพื่อนของข้าทั้งกลุ่มเลยเหรอวะ
อภัยให้ไม่ได้
ข้ากำหมัดแน่นพลางมองไปที่เศษอวัยวะของเพื่อน
"พวกแกไม่ต้องห่วง ข้าจะล้างแค้นให้"
ก่อนจะเงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วกู่ก้องเสียงดัง
"ท่านเทพธิดาจงเป็นพยาน! ข้าอัสทิลขอสาบาน! จะบดขยี้นังเลร่ากับนังคาลิก้าให้เละเหมือนที่พวกมันทำกับเพื่อนของข้า!"
*****
คาลิก้า เนฮิว
หลังถูกบังคับให้สั่งทาสของฉันทิ้งอาวุธแล้วหมอบลงกับพื้น
"สวมปลอกคอนี่ซะอีหนู แล้วก็ประทับลายมือลงในสัญญายอมรับการเป็นทาสด้วย อย่าให้พี่ต้องใช้กำลัง"
หัวหน้าแก๊งทวงหนี้พูดพร้อมกับเชยคางฉันขึ้น แต่ก่อนที่เขาจะได้ก้มลงมาจูบ พ่อค้าทาสก็พูดโพล่งออกมาด้วยเสียงสั่นๆ
"แน่ใจเหรอครับ! ว่าจะไม่เป็นไร! เธออาจจะเป็นลูกขุนนางก็ได้นะครับ แล้วการจับลูกขุนนางเป็นทาสโดยที่ไม่มีความผิดพวกเราจะถูกอาณาจักรสั่งจับตายเอาได้เลยนะครับ"
"แล้วคิดว่าข้าจะอยู่อาณาจักรนี้ต่อเหรอวะ"
"หรือว่า!? คุณจะหนีไปอาณาจักรอื่นเหรอครับ"
"ก็เออดิ ตอนนี้มีหลายกิลด์เข้ามากวาดล้างพวกเราในสลัมแล้ว จะอยู่ให้โง่เหรอวะ!"
สิ้นคำนั้นพวกที่ไม่รู้เรื่องต่างส่งเสียงโวยวาย แล้วทุกคนก็อยู่ในความสับสนวุ่นวาย
"หา เรื่องจริงดิ"
"กะ กิลด์ไหนบ้างวะ มากันเยอะมั้ย"
"ครั้งนี้ราชวงศ์เอาจริงเหรอ พวกเราซวยกันหมดแน่"
"ลูกพี่ เราเอาไงกันดี"
"บ้าเอ๊ย เด็กนี่คงเป็นลูกขุนนางจริงๆ จนตระกูลของเธอจ้างกิลด์มาพาตัวเธอกลับแน่"
"รีบปล่อยคุณหนูคนนั้นไปดีมั้ย"
"แม่ง ไม่น่าตามมาด้วยเลย"
มีแต่พวกกลุ่มอันธพาลเล็กๆ ที่หวาดกลัว
แต่กลับพวกกลุ่มอาชญากร พวกมันกลับสงบนิ่งเหมือนรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว
กิลด์กำลังกวาดล้างพวกอาชญากรในสลัมเนี่ยนะ จะเป็นไปได้ยังไง
ล่ามอนสเตอร์ยังคุ้มค่ากว่า แถมเสี่ยงน้อยกว่าเพราะพวกมอนสเตอร์ถ้าเรารู้ข้อมูล เราก็หาวิธีรับมือได้ง่าย
ล่าเสร็จยังเอาซากของพวกมันไปขาย บางครั้งยังได้ไอเทมที่ดันเจี้ยนสร้างหรือแร่หายากอีก
แต่กับพวกกลุ่มอาชญากร จะจัดการก็ต้องเข้ามาในถิ่นของมัน เงินรางวัลก็ไม่คุ้ม
ถ้าต้องแลกกับการสูญเสียนักผจญภัยฝีมือดี ก็สู้เอาไปลงดันเจี้ยนดีกว่า
เพราะงั้นถึงไม่มีกิลด์ไหนรับคำขอแล้วเข้ามาจัดการไอพวกนี้สักที
เว้นแต่จะมีพวกโง่ไปแหย่พวกผู้มีอำนาจเข้า แบบนั้นอาจจะมีกิลด์หรือทหารของประเทศเข้ามา
แต่พวกกลุ่มอาชญากรในสลัมมันก็ร่วมมือขับไล่ไสส่งพวกโง่พวกนั้นออกมานอกสลัมหรือกีดกันไม่ให้มาอยู่ในเขตของพวกมัน
ตัดเนื้อร้ายชิ้นเดียว โดยไม่ต้องเสี่ยงสูญเสียเยอะ พวกผู้มีอำนาจก็เลือกอย่างแรก จนกลายเป็นข้อตกลงอย่างลับๆ กันสองฝ่าย
สลัมมันถึงบ่มเพาะคนชั่วออกมาเรื่อยๆ และเป็นสถานที่เลวร้ายอยู่ตลอดเวลา
แล้วทำไมหลายกิลด์ถึงเข้ามากวาดล้างกัน แสดงว่าต้องมีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้นแน่ๆ
"เอ่อ... คุณหนูครับ คุณหนูมาจากตระกูลไหนเหรอครับ"
พ่อค้าทาสพูดกับฉันอย่างนอบน้อมด้วยสีหน้าหวาดกลัวจนเหงื่อตก
ฉันก็ดันไม่รู้จักชื่อของตระกูลขุนนางด้วยสิ เลยพูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งออกไปดู
"แล้วคิดว่าฉันมาจากตระกูลไหนล่ะ!"
"เอ่อ แองก้า ใช่ไหมครับ หรือว่า เวลม่า ไม่สิๆ น่าจะ โรซาค เอ๊ะ หรือว่า คาลิน"
แองก้า เวลม่า โรซาค คาลิน ถ้าให้สุ่มเลือกสักตระกูลในนี้มาหลอกพวกมัน งั้นเอาชื่อที่ฟังดูโหดๆ ละกัน
"แค่นี้ดูไม่ออกรึไง ฉันมาจากตระกูลโรซาค พวกแกที่บังอาจแตะต้องฉัน ตระกูลโรซาคจะล่าหัวพวกแกทุกคนแน่"
"ฮี้! งานนี้ผมไม่ทำแล้วครับ ไม่ทำแน่นอนครับ คุณหนูฟอร์ซิเทียได้โปรดบอกท่านต้นตระกูลให้ละเว้นชีวิตผมด้วยนะขอรับ กระผมมิกล้าแล้ว"
พ่อค้ารีบก้มไปกราบหัวโขกพื้นจนเลือดออก แปลว่าฉันเลือกถูกสินะ
แต่ก็ดูจะไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่เพราะหัวหน้าแก๊งทวงหนี้มัน
"จะปอดแหกอะไรนักหนาวะ! กว่าพวกกิลด์จะมาถึงนี่ก็อีกนาน พวกมันเสียเวลาไล่จับเด็กผู้หญิงทุกคนอยู่ แค่รีบทำให้มันเป็นทาส แล้วรีบไสหัวหนีไปก็พอแล้ว!"
"อย่าพูดหมาๆ งี้ดิวะ! นี่ขุนนางตระกูลโรซาคเลยนะ! แล้วเด็กผู้หญิงที่พวกนั้นหา ต้องเป็นคุณหนูฟอร์ซิเทียท่านนี้แน่!"
"แกโง่รึไง พวกโรซาคมันมีอำนาจที่อาณาจักรอื่นหรือไงวะ แค่หนีพ้นก็รอดแล้ว"
"ไม่เอา! ยังไงก็ไม่เอา! งานนี้ยกเลิก! เอาเงินคืนไปเลย! ข้าไม่ขอยุ่งถ้าเป็นตระกูลโรซาค!"
"ไอ้โง่! คิดว่าพวกโรซาคจะปล่อยแกไปหลังรู้ว่าแกจะจับลูกสาวมันทำเป็นทาสเหรอวะ! ถ้ายังไม่รีบทำให้มันเป็นทาส! แกกับข้าก็หัวหลุดอยู่ที่นี่แหละ!"
"ฮี๊ๆๆๆๆๆ! จริงด้วย!"
"เลิกเสียเวลาแล้วทำสักที!"
"เฮ้ย จ่ายค่าจ้างพวกข้ามาก่อน กลุ่มข้าจะได้รีบหนี!"
"ของสมาคมพวกเราด้วย จ่ายมา"
"เอาเธอเข้าลัทธิ ถ้าทำให้โรซาคเป็นสาวกได้ล่ะก็ กลุ่มเราจะมีอำนาจในการเผยแพร่ลิขิตเทพไปถึงราชวงศ์"
"เดี๋ยวจ่ายให้ทีหลังโว้ย! เงินอยู่ที่แก๊ง แล้วนังนี่ก็ของข้า รอข้าเสพสุขจนมันพังก่อนเดี๋ยวขายให้"
"ไม่มีเงินก็บอกมา จ่ายไม่ได้พวกข้าจะเอานังนี่ไปขายที่ซ่อง"
"พวกข้าเสียหายไปเยอะเพราะนังนี่ ถ้าจะขาย ข้าก็ต้องได้ส่วนแบ่งด้วย"
"หุบปากให้หมด บอกแล้วไงว่านังนี่มันของข้า แล้วจะยืนโง่ไปถึงไหน รีบทำให้มันเป็นทาสข้าสักทีสิวะ"
"อะ เอ่อ..."
"ให้นังนี่ปลดทาสของมันก่อน ข้าอยากได้พวกมันบางตัว ใช้แทนค่าจ้างก็ได้"
"เฮ้ย ไอพวกนี้ข้าเห็นมันก่อน"
"ไม่ ข้าจะเอาทาสทั้งหมดไปชดเชยที่มันปล่อยสินค้าเราหนีไป ไม่งั้นหัวหน้าเล่นข้าแน่"
"มันเรื่องของแกว่ะ!"
"พูดงี้อยากตายเหรอวะ!"
"ไม่ได้! พวกเราเสียสาวกไปเยอะแล้ว ต้องจับเป็นสาวกให้หมด!"
"จะทำอะไรก็เรื่องของพวกเอ็งโว้ย! เอาเงินมาสักที!"
"ก็บอกว่าหุบปากให้หมด!"
หลังคุยกันไม่ลงตัว พวกมันก็เริ่มมีปากเสียงกัน
จากสามัคคีตอนนี้ต่างฝ่ายต่างจะเริ่มฆ่ากันเองแล้ว
และตอนนั้นเอง
ฟู่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!
มีลมสีดำทมิฬหมุนวนเป็นพายุพุ่งลงมาจากฟ้าด้วยความเร็วสูง พายุลูกนั้นตรงมาที่ฉันยืนถูกจับเป็นตัวประกันอยู่
แม้พวกมันจะพยายามจับฉันหนี แต่พายุลูกนั้นมาถึงเร็วกว่า
ทันทีที่พายุลูกนั้นถึงพื้น ลมพายุสีดำก็ระเบิดออก พัดทุกสิ่งอย่างปลิวกระเด็นไปไกล
จนกลายเป็นพื้นที่โล่งๆ ที่แม้แต่ฝุ่นยังไม่มี
คงมีเพียงแค่ฉันกับทาสที่หมอบอยู่บนพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากการโจมตีของพายุลูกนี้เลย
สำหรับฉันลมมันเบี่ยงทิศออกไปโจมตีคนด้านหลังฉันแทน
หลังพายุสีดำทมิฬสงบลง ก็ปรากฏหญิงสาวผิวสีแทน ผมสีดำยาว แต่งกายมิดชิด ยืนอยู่ต่อหน้าฉัน