Cherreads

Chapter 26 - ตอนที่ 26 อัสนีคำราม

โซร่า เผ่าพันธุ์มนุษย์หมา ทาสของพีโวด้า หัวหน้ากลุ่มโจร [แมวราตรี]

เหตุการณ์ก่อนหน้า ช่วงเวลาก่อนรุ่งเช้า

หลังพีโวด้าตกลงราคากำไลที่ขโมยมาได้กับเจ้าของกำไลเสร็จ

กลุ่มของฉันก็ถูกสั่งให้เอากำไลไปที่สถานที่แลกเปลี่ยน ข้างกองทิ้งขยะเก่าในสลัม

เพราะสถานที่แลกเปลี่ยนอยู่ในสลัม ฝ่ายนั้นจึงส่งพ่อบ้านกับคนคุ้มกันอีก 4 คน มาแทนตัวเอง

"โจรอย่างพวกแกนี่มันต่ำช้าจริงๆ ขโมยของแล้วยังมีหน้ามาขายคืนแพงๆ อีกนะ"

"พวกเราถูกสั่งให้มาแลกเปลี่ยนของค่ะ ไม่ทราบเรื่องอะไรเลย"

"เออ ดูปลอกคอก็รู้ พวกทาสชั้นต่ำ"

"มนุษย์ก็ไม่ใช่ สัตว์ก็ไม่เชิง กล้าเกิดกันมาได้ไงวะ!"

"แหวะ กลิ่นพวกแกมันเหม็นยิ่งกว่าน้ำคลองเน่าอีก!"

"สกปรกขนาดนี้ ต่อให้ตายไปหนอนยังไม่แดกเลยมั้ง!"

ฉันกับคนในกลุ่มยืนฟังพวกนั้นด่าทอโดยไม่ตอบโต้ เพราะเป็นคำสั่งของเจ้านาย ซึ่งเรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นทุกครั้งที่พวกเราถูกส่งให้มาแลกเปลี่ยนของ

ใครจะไปพอใจที่ต้องซื้อของที่เป็นของตัวเองอยู่แล้วกลับคืนในราคาสูง

พวกเราถูกสั่งอีกว่าห้ามตอบโต้หรือป้องกันตัว หากลูกค้าอยากระบายอารมณ์ด้วยการทำร้ายร่างกาย

ส่วนเหตุผลเจ้านายบอกกับเราว่า เพื่อให้ลูกค้าอารมณ์ดี แล้วโอกาสที่พวกมันจะไม่ฆ่าแล้วฉกของไปแทนจะได้มีเพิ่มขึ้น

แต่เหตุผลจริงๆ คือท่านสนุกกับการทายพนันกับคนสนิทของท่านว่าเราจะแลกเปลี่ยนของสำเร็จไหม จะรอดกลับมาได้กี่คน

ของที่ให้ทาสต่อสู้อย่างพวกเรามาแลก จึงเป็นของที่ทำราคาไม่ค่อยได้

อย่างกำไลอันนี้มันก็แค่กำไลธรรมดาที่แฟนสาวของเจ้าของซื้อให้ มีคุณค่าทางจิตใจแต่ไม่มีประโยชน์หรือราคาสูงอะไรเลย

แล้วตอนนั้นเองฉันก็ถูกถีบจนล้ม ก่อนโดนมันกระทืบจนใบหน้าเลือดอาบ ตาซ้ายปิด เลือดกบปาก บอบช้ำไปทั้งตัว

ปลอกคอของฉันเป็นแบบไฟเผา ถ้าขัดคำสั่งไฟจะถูกจุดขึ้นมาเผาทั้งหัวของฉันจนกว่าจะยอมทำตามคำสั่ง

"พอแล้ว ไปเอาของมา จะได้แลกให้มันจบๆ!"

พ่อบ้านที่เห็นสภาพพวกเราเละจนจำเค้าเดิมแทบไม่ได้ก็ค่อยพอใจขึ้น

ฉันลุกขึ้นพลางเช็ดคราบเลือดที่มุมปากแล้วพยักหน้าให้คนในทีมไปคุ้ยกำไลที่ซ่อนไว้ในกองขยะออกมา

นี่ก็เป็นคำสั่งของเจ้านาย เพื่อให้พวกลูกค้าโกรธที่เห็นของตัวเองถูกวางรวมกับขยะ

"ไอ้พวกหมาชั้นต่ำสมควรตาย! บังอาจมากที่กล้าทำกำไลของนายท่านแปดเปื้อน ฆ่าพวกมันให้หมดแล้วเอาของมา! เราจะไม่จ่ายให้มันแม้แต่เหรียญเดียว!"

ผู้คุ้มกันชักอาวุธแล้วพุ่งเข้ามา ฝ่ายเราจะหนีได้ก็ต่อเมื่อถูกโจมตีแล้วหนึ่งครั้ง เพราะเจ้านายของพวกเราสั่งเอาไว้

เพื่อนในกลุ่มบางคนโชคดี โดนแค่มีดแทงเลยสามารถวิ่งหนีไปได้แต่ก็ไม่รู้ว่าจะรอดจากการเสียเลือดไหม

แต่บางคนถูกฟันจนหัวหลุดในครั้งเดียว

อีกคนก็ถูกขวานจามหัว วิ่งหนีไปได้ไม่กี่ก้าวก็ร่วงลงไป

มีคนที่ถูกลูกธนูยิงปักที่ขา ทำให้วิ่งไม่รอด จนถูกยิงปักเข้ากลางอกตายคาที่

"หยุด! ไอคนสุดท้ายเหลือไว้ให้ข้า!"

พ่อบ้านสั่งก่อนเดินเข้ามาหาฉันอย่างมาดร้าย

เพราะฉันยืนอยู่หลังสุด จึงยังไม่โดนโจมตีเลยสักครั้ง

หูกับหางฉันตกเพราะสัมผัสได้ถึงอันตรายจากพ่อบ้านคนนี้

อยากหนี แต่ขัดคำสั่งไม่ได้

"ขะ ขอร้องล่ะค่ะ พวกเราถูกสั่งให้ทำแบบนี้ จะให้ก้มกราบเลียตีนขอโทษก็ได้นะคะ ได้โปรด... อย่าฆ่าหนูเลย"

"เก็บลิ้นสกปรกโสโครกของแกไว้กินน้ำคลองเหอะ! อีหมาขยะ!"

พ่อบ้านง้างหมัดพร้อมกับเปิดใช้สกิล เวทลมสีเขียวเริ่มหมุนวนรอบกำปั้นอย่างบ้าคลั่ง

ฉันกลัวจนเผลอก้าวถอยหลังไปก้าวนึง ปลอกคอทาสจึงทำงาน

เปลวไฟลุกท่วมเผาหัวฉันในทันที

"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!"

"คลื่นอัดกระแทก!"

แล้วหมัดที่เสริมด้วยเวทลมก็ชกเข้าใส่แขนกับซี่โครงด้านซ้ายหัก

ตามด้วยเวทลม ระเบิดแรงกระแทกซ้ำ ตัวฉันปลิวไปกระแทกกับหลังคาบ้านไม้จนพังถล่มก่อนพุ่งสูงขึ้นไปบนอากาศ

"เวรเอ๊ย! ว่าจะเล็งที่ใบหน้า มันดันเสือกดิ้นไปมาจนต่อยพลาด"

เพราะโดนโจมตีแล้วปลอกคอจึงหยุดลงโทษ

แต่ใบหน้ากับเส้นผมไหม้เกรียมไปหมดแล้ว รู้สึกปวดแสบร้อนไปหมด

แล้วตัวฉันก็ร่วงลงกระแทกใส่บ้านไม้หลังนึง

โครม!

เพราะช็อกจากอาการเจ็บที่เกิดขึ้นมาจากการตก ทำให้ฉันเผลอปล่อยสกิลออกไป

เปรี๊ยะ!

สกิลกระจอกที่ทำได้แค่สร้างไฟฟ้าช็อตให้คนสะดุ้งตกใจเท่านั้น

*****

เอลด้า เนฮิว

"เฮือก! แค่ก! แค่ก! แค่ก!"

ยะ ยังไม่ตาย

ความรู้สึกเหมือนถูกอะไรสักอย่างกระชากหนูกลับมาจากความมืดเลย

หัวใจกลับมาเต้นอีกครั้งแล้ว

แต่หนูก็ต้องรีบนอนขดตัวกลับไปที่เดิมเพราะคนที่ตามล่าหนูมันตามเข้ามา

"แม่ง! เหม็นฉิบหาย! สมกับเป็นพวกทาสสัตว์ในสลัม โสโครกจริงๆ! แดกแม้แต่ของโสโครกแบบนี้!"

มันสบถเสร็จก็รีบออกไป พร้อมกับที่มีเสียงต่อสู้เกิดขึ้นด้านนอกบ้าน

หนูลืมตาและลุกขึ้นมาสำรวจโดยรอบ เพราะหลังคาทะลุเป็นรู เปลวไฟเวทมนตร์จากการต่อสู้กันข้างนอกจึงส่องให้เห็นสภาพโดยรอบ

หนูถึงได้เห็นทาสเผ่ามนุษย์หมา นอนบาดเจ็บสาหัสอยู่ตรงมุมห้อง

ทั่วร่างโชกไปด้วยเลือด ใบหน้าเหมือนถูกเผาเละ หนักสุดคือแขนซ้ายบิดเบี้ยวกับช่วงซี่โครงด้านซ้ายยุบลงไป

"อ่อก! ค่อก! ค่อก! แค่ก ๆ ๆ ๆ"

เธอกระอักเลือดกองใหญ่ออกมาพร้อมกับตัวกระตุกเฮือกด้วยความเจ็บปวดจากการขยับตัวเพราะอาการไอ

เปรี๊ยะ!

ตอนนั้นเองที่ทั่วร่างของสาวหูหมาคนนั้นปล่อยสายฟ้าออกมาชั่วขณะหนึ่ง

"เหวอ! ไม่แย่งกินแน่ค่ะ"

พร้อมกับผลักกองอาจมไปตรงหน้าเธอ

"..."

สาวหูหมาส่ายหน้าให้หนู

"ไม่พอเหรอคะ แต่หนูไม่ได้กินสักคำเลยนะคะ"

"ฉัน... ก็... ไม่กิน... อ่อก!"

แล้วเธอก็กระอักเลือดออกมาอีกรอบ

"งั้นหนูไปดีกว่าค่ะ"

เพราะยังเจ็บแผล ตอนนี้เลยลุกไม่ไหว หนูจึงพลิกตัวแล้วค่อยๆ คลานไป

แหมะ!

พอหันกลับไปมองก็เห็นสาวหูหมาล้มตัวแล้วพยายามคลานตามมา

"ตามมาทำไมคะเนี่ย"

หนูรีบคลานหนีแต่เธอก็รีบคลานตามแม้สภาพจะอนาถสุดๆ

"ช่วย... ด้วย..."

เอิ่ม... ตัวเองยังเอาตัวแทบไม่รอดเลย

พี่เทียร่าก็อยู่บ้านคนเดียว ส่วนพี่คาลิก้าถ้ากลับมาไม่เจอหนู ได้ออกตามหากันวุ่นวายแน่

แต่ปัญหาคือพวกนี้มันยังตามหาหนูไม่เลิก รู้ได้จากเสียงเพื่อนมันอีกคนที่ตามมาสมทบ

มันตกลงกันว่า คนนึงอยู่สู้ อีกคนนึงตามหาหนู

หนูจึงหันไปถามสาวหูหมา

"เธอปล่อยสายฟ้าแบบนั้นได้อีกมั้ย"

สาวหูหมาพยักหน้าพร้อมกับชี้ที่ตัวเองแล้วพูดว่า

"โซ... ร่า... ชื่อ... อ่อก!"

หนูจึงพยายามลุกขึ้นแล้วไปช่วยดึงเธอขึ้นมา

โดนเข้าไปขนาดนี้ยังมีชีวิตอยู่ได้ สงสัยที่พวกนายทาสชอบพูดกันว่ามนุษย์สัตว์อึดและตายยากกว่ามนุษย์ท่าจะเรื่องจริง

โชคดีที่โซร่าก็ตัวผอมแห้ง จึงให้ใช้แขนขวาโอบคอแล้วช่วยกันพยุงเดินไปได้

แต่ก็หนักอะ ร่างกายหนูก็ไม่ได้แข็งแรงแต่แรกอยู่แล้วไง

แต่ก่อนที่จะไปหนูก็เตี๊ยมแผนการกับโซร่าเอาไว้เผื่อเจอสถานการณ์ฉุกเฉิน

เตี๊ยมเสร็จเราก็เดินออกทางหลังบ้าน แล้วค่อยๆ เลาะหลบไปตามกองซากขยะ ซากไม้

หลบพวกมันและทุกคนในสลัมที่พร้อมจะช่วงชิงเมื่อเห็นคนอ่อนแออย่างพวกเรา

หนูเลยตัดสินใจอ้อมไปส่งโซร่าใกล้ๆ บ้านเจ้านายเธอก่อน แล้วค่อยอ้อมกลับบ้านอีกที

อย่างน้อยก็ได้ล่อพวกมันออกห่างจากบ้านของเรา

แต่ตอนที่หลบเข้าไปในตรอกแคบๆ ได้ครึ่งทาง พวกเราโดนขอทานสองคนดักทางทั้งหน้าและหลัง

"มีอะไรเอาหมด ถอดแล้วโยนมา ไม่งั้นตาย"

หนูจึงวางโซร่าพิงผนังแล้วตีแขนเธอเป็นสัญญาณ

"จัดการมันเลยค่ะ ท่านนักผจญภัย อัสนีคำราม ใช้สกิล โลหิตอัสนี ขยี้มันเลยค่ะ"

"น่ะ นักผจญภัยมีชื่อหรือนี่!"

"มีสกิลด้วยหรือนี่!"

พวกมันพอได้ยินฉายากับชื่อสกิลที่กุขึ้นมามั่วๆ ก็หน้าซีดกันในทันที

"โลหิสอั... อ่อก!"

เปรียะ!

"ไม่นะ! พวกเราผิดไปแล้ววววว!"

"ยะ ยกโทษให้พวกเราด้วยครับ! ท่านอัสนีคำราม!"

ตอนโซร่ากระอักเลือดกับปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมา พวกมันก็หนีหางจุกตูดเลย

"ตามไปฆ่ามันดีมั้ยคะ!"

หนูแกล้งตะโกนไล่หลังพวกมันไป เผื่อพวกมันหันกลับมามอง พอไม่เห็นสายฟ้าอลังการ พาลจะคิดว่าพวกเรากระจอกแล้วกลับมาได้

หลังเสียงฝีเท้าหายไปไกล หนูก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

"ได้ผล... ด้วยแฮะ... อ่อก!"

"หลอกได้แค่พวกโง่เท่านั้นแหละ แล้วก็เก็บเลือดไว้บ้างเถอะ เดี๋ยวได้ตายก่อนถึงหรอก"

"..."

"ไม่ต้องมามองบนใส่ ถ้าเผลอคิดว่าตายตาเหลือกแล้วโดนโยนทิ้ง ก็อย่ามาบ่นทีหลังนะ"

โซร่าจึงหุบปากเงียบพร้อมกับที่หูและหางตกไปด้วย

หลังพ้นตรอกแคบแล้วเดินอ้อมหลบพวกตัวอันตรายไปได้สักพัก พวกเราก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวเรียกชื่อหนูแว่วๆ มา

"เอลด้า! อยู่ที่ไหน! นี่พี่คาลิก้าเองนะ!"

"ซ่อนอยู่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวมา"

หนูวางโซร่าลงไปบนกองขยะ หลังจากเขี่ยขยะมากลบเธอ หนูจึงแอบตามเสียงไป

ใจกลางพวกมนุษย์น้ำแข็ง มีสาวสวยผมสีทองตะโกนเรียกชื่อฉัน พร้อมกับอ้างว่าตัวเองคือพี่คาลิก้า

คนละคนเลยเถอะ แม้แต่เสียงก็ยังไม่ใช่ แถมสาวคนนั้นยังแต่งตัวแบบพวกผู้ดี ผู้คุ้มกันก็รอบตัว

ถ้าบอกว่าพี่คาลิก้าส่งเธอมาตามหาพร้อมกับชูหลักฐานสักอย่างก็จะยอมเสี่ยงดู

หนูจึงเลือกที่จะซ่อนแล้วกลับไปหาโซร่า

แต่ตอนหันกลับไป ดันมีมนุษย์น้ำแข็ง ในมือถือมีดสั้นยืนขวางทางอยู่และยื่นมือเปล่าอีกมือจะมาคว้าตัวหนู

More Chapters